ดูบอลมีความรู้

  "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ต้องการปล่อย "ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค" กองกลางชาวดัตช์ออกจากทีมในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้ ตามรายงานของ อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาระดับโลก ในช่วงที่ผ่านมาอนาคตของ ฟาน เดอ เบ็ค เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าที่ควร จนทำให้ตกเป็นข่าวการย้ายทีมอย่างหนัก ถึงแม้ตลอดช่วงหลายฤดูกาลก่อน "ฟาน เดอ เบ็ค" จะทำผลงานได้โดดเด่นกับ "อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม" จนได้รับคำชมจากหลายฝ่าย แต่เขาก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวรกับ "แมนฯ ยูไนเต็ด" ได้เลย นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จนทำให้มีกระแสข่าวลือว่าเขาไม่พอใจกับสถานการณ์ของตัวเองเท่าไหร่ และต้องการย้ายทีมเพื่อหาโอกาสลงสนามมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นในรูปแบบยืมตัว อย่างไรก็ตาม อีเอสพีเอ็น เผยว่า "โซลชา" ต้องการเก็บ "ฟาน เดอ เบ็ค" เอาไว้ใช้งานต่อไปเพราะตอนนี้ทีมกำลังมีลุ้นแชมป์ลีก แถมยังมีโปรแกรมชุกพอต

  "ดไวท์ ยอร์ค" อดีตยอดกองหน้าของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อว่าสาเหตุที่บางคนชอบตำหนิ "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" กุนซือชาวนอร์เวย์ของ "ปีศาจแดง" รวมถึง "แมนฯ ยูไนเต็ด" ในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะคนเหล่านั้นอิจฉา "โซลชา" ที่ได้รับงานใหญ่ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นในการคุมทีมมากนัก ในช่วงที่ผ่านมา โซลชา เคยโดนตำหนิหนักพอสมควร เนื่องจากตอนนั้นพา แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ไม่คงเส้นคงวา แต่ตอนนี้กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนกำลังพา ปีศาจแดง ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดๆ ปัจจุบัน "โซลชา" ทำผลงานได้ดีกว่าที่หลายคนคิดด้วยการนำทีมเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน ตรงข้ามกับก่อนหน้านี้ที่เขาพาทีมทำผลงานได้ไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควรในหลายช่วงจนถึงขั้นทำให้มีข่าวเกี่ยวกับการโดนปลดออกจากตำแหน่งอยู่บ่อยๆ ขณะที่บางคนก็ให้ความเห็นว่าเขายังไม่เหมาะกับงานใหญ่ขนาดนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นกุนซือในระดับทีมชุดแค่กับ "โมลด์" และ "คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้" เท่านั้น ยอร์ค เผยว่า "หลาย

  "ลิเวอร์พูล" เป็นทีมที่มีเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนจังหวะยิงให้เป็นประตูได้น้อยที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หากนับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา หลังจากทำได้เพียง 1.1 เปอร์เซ็นต์ ตามตัวเลขที่เปิดเผยโดย สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดี ในช่วงหลังมานี้ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ ด้วยการไม่ชนะใครมาเลย 5 นัดติดต่อกัน จนทำให้ตอนนี้ หงส์แดง มีคะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่าง ปีศาจแดง ถึง 6 แต้ม เกมรุกของ "ลิเวอร์พูล" ทำผลงานได้ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมาจนมีส่วนทำให้ทีมไม่ชนะใครในลีกมาแล้ว 5 นัดติดต่อกัน โดยในจำนวนนั้น "หงส์แดง" ทำประตูไม่ได้เลย 4 เกมรวดด้วย ทั้งนี้ ตัวเลข 1.1 เปอร์เซ็นต์ของ "ลิเวอร์พูล" เทียบไม่ได้เลยกับอันดับ 1 ในชาร์ตนี้อย่าง "เลสเตอร์ ซิตี้" ที่เปลี่ยนจังหวะยิงให้เป็นสกอร์ได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ หากนับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยที่ "เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน" กับ "ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์" ตามมาเป็นที่ 2 กับ 3 ตามลำดับ ขณะที่ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ซึ่งเป็นจ่าฝูงนั้น ทำได้ 10.7 เปอร์เซ็นต์ จนเป็นอั

  "วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส" สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยันคว้าตัว "วิลเลี่ยน โชเซ่" กองหน้าชาวบราซิเลียนของ "เรอัล โซเซียดาด" ใน ลา ลีกา สเปน มาเข้าถิ่น โมลินิวซ์ กราวนด์ อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ในฤดูกาลนี้ วูล์ฟส์ ทำผลงานได้น่าผิดหวังพอสมควร ต่างจากซีซั่นก่อนอย่างมาก อีกทั้งยังมีปัญหาในแนวรุกอีกด้วย เนื่องจากหัวหอกตัวเก่งของทีมอย่าง ราอูล ฮิเมเนซ บาดเจ็บหนัก "หมาป่า" ตกลงยืมตัวดาวยิงวัย 29 ปี มาใช้งานแบบยืมตัวจนจบฤดูกาลนี้ และมีเงื่อนไขสามารถซื้อขาดได้ในช่วงซัมเมอร์ หลังเจ้าตัวอยู่กับ "โซเซียดาด" มาตั้งแต่ปี 2016 โดยลงเล่นไปทั้งหมด 170 นัด ทำได้ 62 ประตู  ส่วนผลงานในระดับชาตินั้น "วิลเลี่ยน" เคยติดทีมชาติบราซิล รุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ทั้งหมด 15 นัด ทำได้ 5 ประตู รวมทั้งอยู่ในชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นยู-20 เมื่อปี 2011 ด้วย "วิลเลี่ยน" จะได้มาสวมหมายเลข 12 ให้กับ "วูล์ฟแฮมป์ตัน" และจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในแนวรุกให้กับทีมของ "นูโน่ เอสปิริโต ซานโต" หลั

  "ปอล ป็อกบา" กองกลางชาวฝรั่งเศส ตกลงกับ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ว่าจะรอตัดสินใจเรื่องอนาคตของตัวเองในตอนที่จบฤดูกาล 2020-21 ไปแล้ว ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดี ในช่วงหลายนัดที่ผ่านมา ป็อกบา เริ่มทำผลงานได้โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นกำลังสำคัญที่พา แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ซึ่งมันก็มีโอกาสที่ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสอาจจะเลือกอยู่กับ ปีศาจแดง ต่อไป หลายเดือนก่อนแทบทุกคนมองตรงกันว่า "ป็อกบา" น่าจะเตรียมย้ายออกจากทีม เพราะ "มิโน่ ไรโอล่า" เอเยนต์ของเขาพูดเองว่านักเตะในความดูแลของตนไม่มีความสุขกับทีม และจะบอกลา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอน โดยที่ดาวเตะเลือดน้ำหอมก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวด้วย แต่พักหลังมานี้เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับทำผลงานได้โดดเด่นจนมีส่วนทำให้ทีมนำเป็นจ่าฝูงของลีกในตอนนี้ ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสื่อทุกเจ้ารายงานตรงกันว่า "แมนฯ ยูไนเต็ด" ใช้อ็อปชั่นขยายสัญญาของ "ป็อกบา" ไปจนถึงช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 หลังจากเดิมทีมันจะหมดลงในช่วงกลางปีนี้ แต่การใช้อ็อปชั

    "เฟร็ด" กองกลางชาวบราซิเลียนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยืนยันว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมต่างต้องการชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ "ปีศาจแดง" มีคิวบุกไปเยือน "ลิเวอร์พูล" ทีมคู่ปรับตลอดกาล ที่สนาม แอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เกมนี้ยังคงเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ต้องการ 3 แต้มสำคัญ โดย ปีศาจแดง ต้องการเพื่อหนีห่าง หงส์แดง ออกไป ส่วน เดอะ เร้ด ต้องการเพื่อที่จะขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง ปัจจุบัน "แมนฯ ยูไนเต็ด" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 36 แต้ม จากการลงแข่ง 17 นัด นำ "ลิเวอร์พูล" ที่รั้งอันดับสอง 3 แต้ม ซึ่งถึงแม้ "หงส์แดง" ของกุนซือ "เจอร์เก้น คล็อปป์" ไม่แพ้เกมลีกที่ แอนฟิลด์ มาตั้งแต่ปี 2017 แต่ "เฟร็ด" ประกาศชัดว่า เกมบิ๊กแมตช์วันอาทิตย์นี้ ทีมตนคาดหวังถึงชัยชนะเท่านั้น  "ผมไม่คิดว่าจะมีใครอยากได้ผลเสมอ เราต่างต้องการชัยชนะ ถ้าหากผลออกมาเสมอ ก็เสมอไป แต่เราจะเล่นเพื่อชัยชนะ พวกเขาเองก็เช่นกัน ผมมั่นใจว่า มันจะเป็นเกมที่ยอด

  "แฟร้งค์ แลมพาร์ด" ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษของ "เชลซี" เชื่อว่า ทีมตนคู่ควรแล้วกับชัยชนะ หลังจากที่ทัพ "สิงห์บลูส์" บุกไปพิชิต "ฟูแล่ม" 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา เกมดังกล่าวกว่าที่ เชลซี จะมาได้ประตูชัยต้องรอถึงท้ายเกม ซึ่งแม้ว่าจะมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ลูกเดียว ซึ่ง แลมพาร์ด ก็พอใจกับผลการแข่งขัน เกมนี้ "ฟูแล่ม" มาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 44 หลังจากที่ "แอนโทนี่ โรบินสัน" ได้รับใบแดง จากการเข้าหนักใส่ "เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า" ก่อนที่ "เชลซี" จะมาได้ประตูชัยจาก "เมสัน เมาท์" นาทีที่ 78 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "สิงห์บลูส์" ขึ้นมารั้งอันดับเจ็ด ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 29 แต้ม จากการลงแข่ง 18 นัด ห่างจากโซนท็อปโฟร์ 3 แต้ม และตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 7 แต้ม  "ผมรู้สึกว่า เราออกสตาร์ทเกมได้ดี เราครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการดวลกับทีมที่เหลือผู้เล่นสิ

  "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ของ "เลสเตอร์ ซิตี้" กล่าวชื่นชมลูกทีมที่สามารถยกระดับฟอร์มการเล่นได้ ทั้งที่ออกสตาร์ทไม่ค่อยดี ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ทัพ "จิ้งจอกสยาม" เปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พิชิต "เซาธ์แฮมป์ตัน" 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ เลสเตอร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน หลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเปิดบ้านไล่อัด นักบุญ   เกมนี้ "เลสเตอร์" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงสุดโหดของ "เจมส์ แมดดิสัน" นาทีที่ 37 ก่อนที่จะมาได้ประตูย้ำชัย 2-0 จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปสังหารของ "ฮาร์วีย์ บาร์นส์" นาทีที่ 90+5 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "เลสเตอร์" แซง "ลิเวอร์พูล" ขึ้นมารั้งอันดับสอง ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เรียบร้อย โดยมี 35 แต้ม จากการลงแข่ง 18 นัด ตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด แต้มเดียว  "ถือเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา ผมคิดว่า ช่วง 25 นาทีแรก เราเว้นระยะห่างทางสังคมมากเกินไป เรายืน

  "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เผยว่า ตนจะให้นักเตะทุกคนในทีม ซึ่งก็รวมถึง "อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล" กองหน้าเฟร้นช์แมน พิสูจน์สภาพความฟิตของตัวเอง ก่อนลงฟาดแข้งกับ "ลิเวอร์พูล" ที่สนาม แอนฟิลด์ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เกมแดงเดือดที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมหนึ่ง และหลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอก่อน ซึ่งนักเตะทุกคนก็อยากจะลงสนามนัดนัดดังกล่าว "มาร์กซิยาล" ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังต้นขาจากเกมลีกนัดที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" บุกเชือด "เบิร์นลี่ย์" 1-0 เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เป็นที่หวั่นเกรงกันว่า เจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันเกมสำคัญวันอาทิตย์นี้ แต่ล่าสุด "โซลชา" ยืนยันว่า ตนยังไม่ปิดโอกาส หัวหอกเลือดน้ำหอมวัย 25 ปี  "ผมจะให้โอกาสทุกคนพิสูจน์ความฟิตจนถึงวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) และแน่นอนว่า อ็องโตนี่ ยังไม่หมดโอกาส ส่วนนักเตะที่ลงเล่นเกมนี้ไม่ได้แน่ๆ คือ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ และ ฟิล โจนส์" กุ

  "เจอร์เก้น คล็อปป์" นายใหญ่คนเก่งของ "ลิเวอร์พูล" จะทำสถิติพาทีมคว้าชัยชนะรวมทุกรายการที่สนาม แอนฟิลด์ เป็นนัดที่ 100 หากสามารถนำทัพ "หงส์แดง" เปิดบ้านเอาชนะ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ได้ นับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน ลิเวอร์พูล เขาก็สามารถทำสถิติได้หลายๆ อย่าง และยังพา ลิเวอร์พูล ทำสถิติต่างๆ มากมาย   ตอนนี้ "คล็อปป์" นำ "ลิเวอร์พูล" คว้าชัยชนะรวมทุกรายการที่ แอนฟิลด์ มาแล้ว 99 นัด และถ้าทำได้เป็นนัดที่ 100 ก็จะมีเพียงแค่ บ็อบ เพสลี่ย์ (132 นัด) และ เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช (135 นัด) เท่านั้น ที่พา "หงส์แดง" คว้าชัยชนะที่ แอนฟิลด์ ครบ 100 นัด ด้วยจำนวนเกมที่น้อยกว่า คล็อปป์ (142 นัด)   นอกจากนี้เกมบิ๊กแมตช์ในวันอาทิตย์นี้ ยังถือเป็นเกมลีกที่ แอนฟิลด์ นัดที่ 100 สำหรับ ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 53 ปี อีกด้วย และถือเป็นนัดที่ 200 เมื่อนับรวมทั้งเกมเหย้าและเยือน ซึ่งเจ้าตัวพา ลิเวอร์พูล คว้าชัยมาแล้ว 127 นัด 

  "เฟร็ด" กองกลางชาวบราซิเลียนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยืนยันว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมต่างต้องการชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ "ปีศาจแดง" มีคิวบุกไปเยือน "ลิเวอร์พูล" ทีมคู่ปรับตลอดกาล ที่สนาม แอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เกมนี้ยังคงเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ต้องการ 3 แต้มสำคัญ โดย ปีศาจแดง ต้องการเพื่อหนีห่าง หงส์แดง ออกไป ส่วน เดอะ เร้ด ต้องการเพื่อที่จะขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง ปัจจุบัน "แมนฯ ยูไนเต็ด" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 36 แต้ม จากการลงแข่ง 17 นัด นำ "ลิเวอร์พูล" ที่รั้งอันดับสอง 3 แต้ม ซึ่งถึงแม้ "หงส์แดง" ของกุนซือ "เจอร์เก้น คล็อปป์" ไม่แพ้เกมลีกที่ แอนฟิลด์ มาตั้งแต่ปี 2017 แต่ "เฟร็ด" ประกาศชัดว่า เกมบิ๊กแมตช์วันอาทิตย์นี้ ทีมตนคาดหวังถึงชัยชนะเท่านั้น  "ผมไม่คิดว่าจะมีใครอยากได้ผลเสมอ เราต่างต้องการชัยชนะ ถ้าหากผลออกมาเสมอ ก็เสมอไป แต่เราจะเล่นเพื่อชัยชนะ พวกเขาเองก็เช่นกัน ผมมั่นใจว่า มันจะเป็นเกมที่ยอดเย

  "โจเซป กวาร์ดิโอล่า" กุนซือสมองเพชรของ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ว่าล่าสุดทีมของเขาจะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ "คริสตัล พาเลซ" 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา จนขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงแล้วก็ตาม เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เล่นได้เหนือกว่า พาเลซ กว่าทุกอย่าง และเอาชนะไปได้แบบสบาย ซึ่งมันก็ส่งผลให้เขาขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง และมีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ตอนนี้ "แมนฯ ซิตี้" มี 35 คะแนนจากการลงเล่น 17 นัด ตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" คู่อริร่วมเมืองเพียงแค่ 2 คะแนน แถมทีมของ "กวาร์ดิโอล่า" ยังลงเล่นน้อยกว่า 1 เกมด้วย โดยตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" ไม่แพ้ใครในลีกมา 9 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นการชนะได้ถึง 7 เกม "ผมไม่อยากจะส่งสารอะไรทั้งนั้น เรามีเกมกับ แอสตัน วิลล่า ให้ลงเล่นในวันพุธนี้ มันต้องดูกันไปแบบนัดต่อนัด เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเรายังมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล หลายแต้มอยู่เลย หลังจากนั้นเราก็ชนะได้หลายนัดและนั่นเป็นสิ่งที

  "โรนัลด์ คูมัน" เทรนเนอร์ชาวดัตช์ของ "บาร์เซโลน่า" สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน กล่าวปกป้อง "ลิโอเนล เมสซี่" กองหน้ากัปตันทีมจากกรณีที่ "เมสซี่" โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกม สแปนิช ซูเปอร์คัพ นัดชิงชนะเลิศที่ทัพ "อาซูลกราน่า" แพ้ "แอธเลติก บิลเบา" 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เกมดังกล่าว เมสซี่ โดนใบแดงไล่ออกโดยตรงในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็มีหลายคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจากจังหวะดังกล่าว เนื่องจากดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์มักจะโดนเล่นงานอยู่ตลอด ในช่วงท้ายๆ ของการต่อเวลาพิเศษซึ่งเป็นตอนที่ "บาร์เซโลน่า" ตามหลังไปแล้ว 2-3 นั้น "เมสซี่" ไปอัดเข้าตรงบริเวณศีรษะของ "อาเซียร์ บียาลิเบร" ในตอนที่ "บาร์เซโลน่า" กำลังบุกเพื่อหวังจะทำประตู ซึ่งหลังจากกรรมการไปเช็กจังหวะนี้ย้อนหลังที่ข้างสนามแล้วนั้นเขาก็กลับมาแจกใบแดงให้กับดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทันที ทำให้นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ "เมสซี่" โดนใบแดงกับการเล่นให้ "บาร์เซโลน่า" "ผมพอจะเข้าใจหัวอ

  "โชเซ่ มูรินโญ่" กุนซือชาวโปรตุกีสของ "ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์" เคยตำหนิ "แกเร็ธ เบล" ปีกชาวเวลส์ว่าไม่ทุ่มเทมากเท่าที่ควรจนถึงขั้นเคยตั้งคำถามว่าอยากอยู่กับทีมต่อหรืออยากกลับไปเป็นตัวสำรองที่ "เรอัล มาดริด" ในช่วงที่ผ่านมา เบล เริ่มทำผลงานได้น่าผิดหวังจนกลายเป็นส่วนเกินของ เรอัล มาดริด แบบเต็มตัว จนได้ย้ายมาเล่นกับ สเปอร์ส แบบยืมตัว แต่เขาก็ไม่ได้เป็นกำลังหลักของ ไก่เดือยทอง แต่อย่างใด "สเปอร์ส" ตัดสินใจยืม "เบล" มาจาก "มาดริด" เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน หลังจากที่ปีกคนดังกลายเป็นส่วนเกินของ "ราชันชุดขาว" มานานหลายเดือน ซึ่งตอนแรกหลายคนเชื่อว่าดาวเตะวัย 31 ปีน่าจะสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งที่ "สเปอร์ส" ได้ แต่กลับกลายเป็นว่าจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งได้ลงเล่นให้ทีมในลีกไปเพียง 4 นัด และทำได้แค่ 1 ประตูเท่านั้น ทั้้งนี้ ไม่นานมานี้ สเปอร์ส เปิดเผยคลิปบรรยากาศการฝึกซ้อมของทีม แต่ในช่วงหนึ่งมันมีเสียง มูรินโญ่ ที่พูดขึ้นมาว่า "นายอยากจะอยู่ที่นี่ ? หรืออยากไปที่ เรอัล มาดริด และไม่ได้เล่นฟุตบอลเลยกันแน่ ?&

  "โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้" หัวหอกจอมสังหารของ "บาเยิร์น มิวนิค" ทำลายสถิติการทำประตูในเกม บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้มากที่สุดในการลงเล่น 16 นัดแรกของฤดูกาล ด้วยการทำไปได้ 21 ลูก หลังจบเกมที่ต้นสังกัดของเขาเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า เอาชนะ "ไฟร์บวร์ก" 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ในฤดูกาลนี้ เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงทำผลงานได้สุดยอดมากๆ ด้วยการทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังยิงประตูได้มากกว่าจำนานนัดที่ลงเล่นอีกด้วย นัดดังกล่าว "เลวานดอฟสกี้" ทำประตูขึ้นนำให้ทีมตั้งแต่นาทีที่ 7 โดยสถิติเดิมนั้นเป็นของ "แกร์ด มุลเลอร์" ตำนานดาวเตะชาวเยอรมันที่เคยยิงได้ 20 ลูกในช่วง 16 เกมแรกของซีซั่น 1968-69 นอกจากนี้ ผลงานในนัดล่าสุดก็ทำให้ตอนนี้ "เลวานดอฟสกี้" ทิ้งห่าง "เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์" กองหน้าฟอร์มฮอตของ "โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์" กับ "อันเดร ซิลวา" ดาวเตะ "ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต" ในชาร์ตดาวซัลโวสูงสุดของ บุนเดสลีกา ประจำซีซั่นนี้เพิ่มเป็น 9 ลูกด้วย ขณะเดียวกันถ้ารับรวมทุกรายการนั้น ในฤดูกาล

  "รอย คีน" ตำนานกองกลางของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ชมแนวรับของ "ปีศาจแดง" ที่ทำผลงานได้ดีในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ "ลิเวอร์พูล" 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา โดยที่เขาชม "ลุค ชอว์" แบ็กซ้ายชาวอังกฤษเป็นกรณีพิเศษด้วย เกมดังกล่าว ชอว์ ทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ จนได้รับคำชมจากหลายฝ่ายเข้ามามากมาย ซึ่งแบ็กซ้ายชาวอังกฤษยังคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้ไปด้วย ช่วงที่ผ่านมา "คีน" มักจะวิเคราะห์เชิงตำหนิแนวรับของ "แมนฯ ยูไนเต็ด" อยู่บ่อยๆ หลังจากที่พวกเขาเสียประตูง่ายเกินไป แต่เกมนี้แผงหลังของทีมเยือนสามารถต้านทานแนวรุกของ "หงส์แดง" ได้น่าประทับใจจนทำให้อาคันตุกะมี 1 แต้มกลับบ้าน คีน เผยว่า "ผมจะไม่ตำหนิ ยูไนเต็ด หนักเกินไปหรอกนะ ผมคิดว่าวันนี้ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจในการลงเล่นที่ดี ผมคิดว่าแผงแบ็กโฟร์ของพวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งที่ปกติแล้วนี่เป็นจุดที่ผมกังวลอยู่เสมอ วันนี้พวกเขาเล่นได้ดีมากๆ ผมรู้ดีว่าพวกเขาปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสยิงแค่ 1 หรือ 2 หนเท่านั้นในช่

  เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ปฏิเสธที่จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับ 2 สตาร์ลูกหนังโลกในปัจจุบัน ชี้ทั้งคู่เป็นโคตรนักเตะที่โลกต้องจารึกเอาไว้ และตนยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะพัฒนา เพื่อที่จะก้าวไปอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา            เออร์ลิง ฮาแลนด์  กองหน้าฟอร์มระเบิด "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดใจอย่านำตนไปเปรียบเทียบกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพราะทั้งสองคนเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ ส่วนตนยังต้องพัฒนาอีกเยอะ            ดาวยิงอนาคตไกลชาวนอร์เวย์ ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อในฤดูกาลนี้เมื่อซัดไปแล้ว 33 ประตูจาก 31 เกมตลอดทุกรายการ และฟอร์มของเขาทำให้หลายๆ สโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปแสดงความสนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีมอย่างมาก            ผลงานของ ฮาแลนด์ ในเวลานี้ทำให้มีหลายคนนำเขาไปเปรียบเทียบกับ เมสซี่ และ โรนัลโด้ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพพ่อค้าแข้งแล้ว แถมยังมองว่าเขากับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะเป็นสองแข้งที่จะก้าวขึ้นมาครอบครองโลกลูกหนังในอนาคต            แม้จะได้รับการเชิดชูอย่างอุ่น

  เลเวอร์คูเซ่น เด้ง ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ชาวดัตช์ โทษฐานทำผลงานห่วยจนร่วงไปอยู่ที่ 6 ของตารางแล้ว     ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรชั้นนำแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ประกาศปลด ปีเตอร์ บอสซ์ ออกจากตำแหน่งกุนซือเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันอังคารที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากผลงานของ "ห้างขายยา" ย่ำแย่ตลอดช่วง 2-3 เดือนหลัง     พร้อมกันนี้ เลเวอร์คูเซ่น ยังตั้งให้ ฮานเนส โวล์ฟ กุนซือทีมชาติเยอรมนี รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำหน้าที่เทรนเนอร์ชั่วคราวไปจนจบฤดูกาลนี้ โดยมี ปีเตอร์ แฮร์มันน์ ทำหน้าที่ผู้ช่วย หลังมีประสบการณ์กับทีมนานถึง 29 ปี ทั้งในฐานะนักเตะ, ผู้ช่วยโค้ช และกุนซือชั่วคราว     เกมล่าสุด "ห้างขายยา" ออกไปพ่าย แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ขาดลอย 0-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้แพ้ในเกมลีก 3 จาก 4 นัดหลังสุด จนเวลานี้อันดับร่วงไปอยู่ที่ 6 ของตารางแล้ว และมีโอกาสสูงที่จะพลาดโควตาไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า      สำหรับ บอสซ์ วัย 57 ปี ก่อนที่จะมาคุม เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปี 2018 นั้น เคยกุมบังเหียน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาก่อน หลังสร้างชื่อ

  เปิดลิสต์ 5 แข้งดังที่มีโอกาสย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อเข้ามากู้วิกฤตในการช่วยทีมมีลุ้นกลับไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกครั้ง     ฤดูกาลนี้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีผลงานที่ดร็อปลงไปอย่างน่าใจหายโดยเคยถึงขั้นหล่นไปรั้งช่วงล่างของตารางมาแล้ว ก่อนจะกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งจนไต่ขึ้นมารั้งที่ 9 ของตาราง และโอกาสที่จะลุ้นติดท็อปโฟร์ดูเลือนลางลงไปทุกขณะ ซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องพลาดลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว      ขณะที่ความหวังเดียวในตอนนี้นั้นคือการลุ้นแชมป์ยูโรปา ลีก หลังจากพวกเขาทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย      แน่นอนว่าหลังจบฤดูกาลนี้ อาร์เตต้า จำเป็นต้องจัดการเสริมทัพผู้เล่นเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อพาทีมกลับไปประสบความสำเร็จอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ และนี่คือ 5 แข้งที่มีโอกาสสูงที่จะย้ายมาเล่นในถิ่นเอมิเรต สเตเดี้ยม

  หลังจากก่อนหน้านี้ลือกันว่า เอริก ไบยี่ ปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับทีม ล่าสุด สกายสปอร์ตส์ นิวส์ สื่อกีฬาชื่อก้องก็แฉว่า ไบยี่ โมโหที่ "ปีศาจแดง" ไม่ให้ความเคารพเขามากเท่าไหร่ และมองว่าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยากต่อสัญญากับเขาเป็นแค่การทำเพื่อที่จะได้ขายเขาในราคาสูงๆ เท่านั้น     เอริก ไบยี่ กองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มองว่าสโมสรไม่ให้ความเคารพกับเขามากเท่าที่ควร จนทำให้เขาต้องการย้ายออกจากทีม ตามรายงานของ สกายสปอร์ตส์ นิวส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดี     ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือว่า ไบยี่ ไม่ต้องการต่อสัญญากับทีม จนทำให้มีแนวโน้มสูงที่เขาจะโดนขายในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะเดิมทีสัญญาฉบับปัจจุบันของเขาจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด บางส่วนเสียดายพอตัว หลังจากที่เขามักจะทำผลงานได้ดีเวลาที่ลงสนาม โดยเฉพาะซีซั่นนี้ที่ช่วงหนึ่งได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องจนทำให้เหมือนกับว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้

  มาร์ติน โอเดการ์ด เพลเมกเกอร์ชาวนอร์เวย์ของ อาร์เซน่อล กลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยสร้างโอกาสมากที่สุดในทีมจากการใช้เวลาอยู่ในสนามเพียง 767 นาทีเท่านั้น     เพลเมกเกอร์วัย 22 ปี ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาเล่นในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาลเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะฉาวแววเด่นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นแกนหลักในแผนการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไปเรียบร้อย โดยเฉพาะการทำหน้าที่รับบทสร้างสรรค์เกม ซึ่งทำให้แนวรุกของ "ปืนใหญ่" ดูมีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น โดยมีสถิติทำไปแล้ว 2 ประตูจากการลงเล่นรวมทุกรายการ      จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้ โอเดการ์ด มีสถิติเป็นผู้เล่นของ อาร์เซน่อล ที่สร้างสรรค์โอกาสมากที่สุดในทีม จากโอกาสลงเล่นเพียง 767 นาที แต่เขาสร้างโอกาสให้เพื่อนไปถึง 17 ครั้ง หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยสร้างโอกาสทุกๆ 45.1 นาที 

  "โจเซป กวาร์ดิโอล่า" กุนซือสมองเพชรของ "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ว่าล่าสุดทีมของเขาจะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ "คริสตัล พาเลซ" 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา จนขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงแล้วก็ตาม เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เล่นได้เหนือกว่า พาเลซ กว่าทุกอย่าง และเอาชนะไปได้แบบสบาย ซึ่งมันก็ส่งผลให้เขาขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง และมีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ตอนนี้ "แมนฯ ซิตี้" มี 35 คะแนนจากการลงเล่น 17 นัด ตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" คู่อริร่วมเมืองเพียงแค่ 2 คะแนน แถมทีมของ "กวาร์ดิโอล่า" ยังลงเล่นน้อยกว่า 1 เกมด้วย โดยตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" ไม่แพ้ใครในลีกมา 9 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นการชนะได้ถึง 7 เกม "ผมไม่อยากจะส่งสารอะไรทั้งนั้น เรามีเกมกับ แอสตัน วิลล่า ให้ลงเล่นในวันพุธนี้ มันต้องดูกันไปแบบนัดต่อนัด เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเรายังมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล หลายแต้มอยู่เลย หลังจากนั้นเราก็ชนะได้หลายนัดและนั่นเป็นสิ่งที

  "โรนัลด์ คูมัน" เทรนเนอร์ชาวดัตช์ของ "บาร์เซโลน่า" สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน กล่าวปกป้อง "ลิโอเนล เมสซี่" กองหน้ากัปตันทีมจากกรณีที่ "เมสซี่" โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกม สแปนิช ซูเปอร์คัพ นัดชิงชนะเลิศที่ทัพ "อาซูลกราน่า" แพ้ "แอธเลติก บิลเบา" 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เกมดังกล่าว เมสซี่ โดนใบแดงไล่ออกโดยตรงในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็มีหลายคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจากจังหวะดังกล่าว เนื่องจากดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์มักจะโดนเล่นงานอยู่ตลอด ในช่วงท้ายๆ ของการต่อเวลาพิเศษซึ่งเป็นตอนที่ "บาร์เซโลน่า" ตามหลังไปแล้ว 2-3 นั้น "เมสซี่" ไปอัดเข้าตรงบริเวณศีรษะของ "อาเซียร์ บียาลิเบร" ในตอนที่ "บาร์เซโลน่า" กำลังบุกเพื่อหวังจะทำประตู ซึ่งหลังจากกรรมการไปเช็กจังหวะนี้ย้อนหลังที่ข้างสนามแล้วนั้นเขาก็กลับมาแจกใบแดงให้กับดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทันที ทำให้นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ "เมสซี่" โดนใบแดงกับการเล่นให้ "บาร์เซโลน่า" "ผมพอจะเข้าใจหัวอ