ดูบอลมีความรู้

  "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ของ "เลสเตอร์ ซิตี้" กล่าวชื่นชมลูกทีมที่สามารถยกระดับฟอร์มการเล่นได้ ทั้งที่ออกสตาร์ทไม่ค่อยดี ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ทัพ "จิ้งจอกสยาม" เปิดรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม พิชิต "เซาธ์แฮมป์ตัน" 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ เลสเตอร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน หลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเปิดบ้านไล่อัด นักบุญ   เกมนี้ "เลสเตอร์" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการยิงสุดโหดของ "เจมส์ แมดดิสัน" นาทีที่ 37 ก่อนที่จะมาได้ประตูย้ำชัย 2-0 จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปสังหารของ "ฮาร์วีย์ บาร์นส์" นาทีที่ 90+5 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "เลสเตอร์" แซง "ลิเวอร์พูล" ขึ้นมารั้งอันดับสอง ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เรียบร้อย โดยมี 35 แต้ม จากการลงแข่ง 18 นัด ตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด แต้มเดียว  "ถือเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา ผมคิดว่า ช่วง 25 นาทีแรก เราเว้นระยะห่างทางสังคมมากเกินไป เรายืน

  "แฟร้งค์ แลมพาร์ด" ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษของ "เชลซี" เชื่อว่า ทีมตนคู่ควรแล้วกับชัยชนะ หลังจากที่ทัพ "สิงห์บลูส์" บุกไปพิชิต "ฟูแล่ม" 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา เกมดังกล่าวกว่าที่ เชลซี จะมาได้ประตูชัยต้องรอถึงท้ายเกม ซึ่งแม้ว่าจะมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ลูกเดียว ซึ่ง แลมพาร์ด ก็พอใจกับผลการแข่งขัน เกมนี้ "ฟูแล่ม" มาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 44 หลังจากที่ "แอนโทนี่ โรบินสัน" ได้รับใบแดง จากการเข้าหนักใส่ "เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า" ก่อนที่ "เชลซี" จะมาได้ประตูชัยจาก "เมสัน เมาท์" นาทีที่ 78 ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "สิงห์บลูส์" ขึ้นมารั้งอันดับเจ็ด ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 29 แต้ม จากการลงแข่ง 18 นัด ห่างจากโซนท็อปโฟร์ 3 แต้ม และตามหลัง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 7 แต้ม  "ผมรู้สึกว่า เราออกสตาร์ทเกมได้ดี เราครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการดวลกับทีมที่เหลือผู้เล่นสิ

    "เฟร็ด" กองกลางชาวบราซิเลียนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยืนยันว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมต่างต้องการชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ "ปีศาจแดง" มีคิวบุกไปเยือน "ลิเวอร์พูล" ทีมคู่ปรับตลอดกาล ที่สนาม แอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เกมนี้ยังคงเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ต้องการ 3 แต้มสำคัญ โดย ปีศาจแดง ต้องการเพื่อหนีห่าง หงส์แดง ออกไป ส่วน เดอะ เร้ด ต้องการเพื่อที่จะขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง ปัจจุบัน "แมนฯ ยูไนเต็ด" รั้งตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 36 แต้ม จากการลงแข่ง 17 นัด นำ "ลิเวอร์พูล" ที่รั้งอันดับสอง 3 แต้ม ซึ่งถึงแม้ "หงส์แดง" ของกุนซือ "เจอร์เก้น คล็อปป์" ไม่แพ้เกมลีกที่ แอนฟิลด์ มาตั้งแต่ปี 2017 แต่ "เฟร็ด" ประกาศชัดว่า เกมบิ๊กแมตช์วันอาทิตย์นี้ ทีมตนคาดหวังถึงชัยชนะเท่านั้น  "ผมไม่คิดว่าจะมีใครอยากได้ผลเสมอ เราต่างต้องการชัยชนะ ถ้าหากผลออกมาเสมอ ก็เสมอไป แต่เราจะเล่นเพื่อชัยชนะ พวกเขาเองก็เช่นกัน ผมมั่นใจว่า มันจะเป็นเกมที่ยอด

  "เจอร์เก้น คล็อปป์" นายใหญ่คนเก่งของ "ลิเวอร์พูล" จะทำสถิติพาทีมคว้าชัยชนะรวมทุกรายการที่สนาม แอนฟิลด์ เป็นนัดที่ 100 หากสามารถนำทัพ "หงส์แดง" เปิดบ้านเอาชนะ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ได้ นับตั้งแต่ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน ลิเวอร์พูล เขาก็สามารถทำสถิติได้หลายๆ อย่าง และยังพา ลิเวอร์พูล ทำสถิติต่างๆ มากมาย   ตอนนี้ "คล็อปป์" นำ "ลิเวอร์พูล" คว้าชัยชนะรวมทุกรายการที่ แอนฟิลด์ มาแล้ว 99 นัด และถ้าทำได้เป็นนัดที่ 100 ก็จะมีเพียงแค่ บ็อบ เพสลี่ย์ (132 นัด) และ เซอร์ เคนนี่ ดัลกลิช (135 นัด) เท่านั้น ที่พา "หงส์แดง" คว้าชัยชนะที่ แอนฟิลด์ ครบ 100 นัด ด้วยจำนวนเกมที่น้อยกว่า คล็อปป์ (142 นัด)   นอกจากนี้เกมบิ๊กแมตช์ในวันอาทิตย์นี้ ยังถือเป็นเกมลีกที่ แอนฟิลด์ นัดที่ 100 สำหรับ ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 53 ปี อีกด้วย และถือเป็นนัดที่ 200 เมื่อนับรวมทั้งเกมเหย้าและเยือน ซึ่งเจ้าตัวพา ลิเวอร์พูล คว้าชัยมาแล้ว 127 นัด   เว็บคาสิโนออนไลน์

  "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เผยว่า ตนจะให้นักเตะทุกคนในทีม ซึ่งก็รวมถึง "อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล" กองหน้าเฟร้นช์แมน พิสูจน์สภาพความฟิตของตัวเอง ก่อนลงฟาดแข้งกับ "ลิเวอร์พูล" ที่สนาม แอนฟิลด์ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เกมแดงเดือดที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกมหนึ่ง และหลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอก่อน ซึ่งนักเตะทุกคนก็อยากจะลงสนามนัดนัดดังกล่าว "มาร์กซิยาล" ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังต้นขาจากเกมลีกนัดที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" บุกเชือด "เบิร์นลี่ย์" 1-0 เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เป็นที่หวั่นเกรงกันว่า เจ้าตัวอาจฟิตไม่ทันเกมสำคัญวันอาทิตย์นี้ แต่ล่าสุด "โซลชา" ยืนยันว่า ตนยังไม่ปิดโอกาส หัวหอกเลือดน้ำหอมวัย 25 ปี  "ผมจะให้โอกาสทุกคนพิสูจน์ความฟิตจนถึงวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) และแน่นอนว่า อ็องโตนี่ ยังไม่หมดโอกาส ส่วนนักเตะที่ลงเล่นเกมนี้ไม่ได้แน่ๆ คือ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ และ ฟิล โจนส์" กุ

  "ฌอง-มิเชล ลาร์เก้" อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ตำหนิ "คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้" กองหน้าตัวเก่งของ "ปารีส แซงต์-แชร์กแมง" แบบรุนแรงจนถึงขั้นบอกว่าเขาไม่ควรได้ลงเล่นให้ทีมอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่ "เอ็มบั๊ปเป้" โชว์ลีลามากเกินความจำเป็น ในฤดูกาลนี้แม้ว่า เอ็มบั๊ปเป้ จะยังคงทำประตูได้ต่อเนื่อง แต่ผลงานโดยรวมของเขาถือว่าไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่ ทำให้ช่วงหลังมานี้หัวหอกชาวฝรั่งเศสโดนตำหนิอย่างหนัก แม้ว่าในฤดูกาลนี้่ "เอ็มบั๊ปเป้" จะทำไปแล้ว 14 ประตูจากการลงเล่น 21 นัดในทุกรายการ แต่หลายฝ่ายมองว่าการเล่นโดยรวมของเขาดร็อปลง อย่างเช่นการพยายามโชว์ลูกเล่นมากเกินไปจนส่งผลเสียกับทีมไปในตัว ลาร์เก้ ซึ่งเคยเล่นให้ "เปแอสเช" ด้วยนั้น เผยว่า "ในตอนนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ไม่สมควรได้ลงเล่นให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ผมจะไม่เจาะกะโหลกของเขาเพื่อดูหรอกนะว่าเด็กคนนั้นคิดอะไรอยู่ แต่เขาทำให้หลายอย่างมันยุ่งยาก เขาทำให้ทุกอย่างที่ตัวเองทำมันซับซ้อนแบบไร้ความจำเป็น ทำไมเขาถึงต้องโชว์ท่าราโบน่าด้วย ? เขาจะสับขาหลอกตั้ง 12 รอบไปทำไมถ้าสุดท้ายแล้วเขายัง

  "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ตำนานผู้จัดการทีมของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" กล่าวยกย่อง "ลิเวอร์พูล" ว่าเป็นทีมที่สุดยอดในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมพูดแบบติดตลกว่ามันเป็นโชคดีสำหรับตนที่วางมือจากการคุมทีมไปแล้ว เพราะทำให้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับ "หงส์แดง" ชุดที่โหดแบบนี้ นับตั้งแต่ คล็อปป์ มาคุม ลิเวอร์พูล เขาก็สามารถพา หงส์แดง ยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งอย่างมาก หลายคนยกให้ "ลิเวอร์พูล" ชุดปัจจุบันเป็นยุคทองในรอบหลายปี หลังจากพวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องจนได้ทั้งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่น 2018-19 และแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อน ขณะที่ตอนนี้ "หงส์แดง" ก็ยังมีลุ้นแชมป์ลีกเหมือนกัน เพราะเป็นอันดับ 2 ของตารางคะแนน ตามหลัง "แมนฯ ยูไนเต็ด" เพียงแค่ 3 แต้ม แถมทีมของกุนซือ "เจอร์เก้น คล็อปป์" ยังมีผลต่างประตุได้-เสีย ดีกว่าด้วย และทั้ง 2 ทีมก็ต้องโคจรมาเจอกันเองในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้อีก เฟอร์กูสัน เผยว่า "ผมมองว่าเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พู

  "ซลาตัน อิบราฮิโมวิช" กองหน้าคนดังของ "เอซี มิลาน" สโมสรชั้นนำแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เปิดเผยว่าตนเคยตะคอกใส่ "ปิแอร์ กาลูลู" กองหลังดาวรุ่งของทีมด้วยความโมโหสุดขีดจากการที่แข้งวัย 20 ปี สวมถุงมือลงเล่นในนัดประเดิมสนามของเขากับต้นสังกัด ในช่วงที่ผ่านมา อิบราฮิโมวิช มักจะแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในสนามการแข่งขัน ไม่ว่าจะเรื่องไหนเขาก็จะจริงจังตลอด ซึ่งล่าสุด กาลูลู ก็โดนดาวยิงชาวสวีดิชตะคอกใส่ "กาลูลู" ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ "มิลาน" เป็นนัดแรกในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช ที่ทัพ "รอสโซเนรี่" บุกไปชนะ "สปาร์ต้า ปราก" 1-0 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาแข้งวัย 20 ปีก็ได้รับโอกาสลงเล่นในลีกอีก 6 นัดด้วยกัน แถมยังทำประตูได้ในเกมที่ "มิลาน" เสมอกับ "เจนัว" 2-2 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมาด้วย "เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ปิแอร์ กาลูลู ประเดิมสนามกับ เอซี มิลาน แต่เขาดันสวมถุงมือลงสนาม ผมต้องสั่งให้เขาถอดออก! คือกองหลังดาวรุ่งจะประเดิมสนามในสภาพ

  "ปอล ป็อกบา" กองกลางชาวฝรั่งเศสของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ "ลิเวอร์พูล" คู่อริตลอดกาลแต่อย่างใด ในฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดๆ จนนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน ซึ่งในวันที่ 17 มกราคมนี้ ปีศาจแดง มีคิวบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่เป็นรองจ่าฝูงถึงสนาม แอนฟิลด์ โดยเกมนี้จะเป็นเกมที่แย่งยิงตำแหน่งจ่าฝูงกัน "แมนฯ ยูไนเต็ด" จะไปเยือน "ลิเวอร์พูล" ในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ ในสภาพที่พวกเขานำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนจากการมีแต้มมากกว่า "หงส์แดง" 3 แต้ม ซึ่งบางคนถึงขั้นมองว่าทีมของกุนซือ "โอเล่ กุนนาร์ โซลชา" มีโอกาสได้แชมป์ลีกในซีซั่นนี้ไปครอง และคิดว่าพวกเขาก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ "ลิเวอร์พูล" ได้แล้วด้วย ป็อกบา เผยว่า "เราพัฒนาขึ้นมาเยอะสุดๆ เรายังเดินหน้าพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังเหมือนเป็นทีมที่ยังอายุน้อยมากๆ อยู่ แน่นอนว่าเราไม่สามารถบอกได้หรอกว่าตอนนี้เราอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาแล้ว เพราะพวกเขาเค

  "เจอร์เก้น คล็อปป์" นายใหญ่คนเก่งของ "ลิเวอร์พูล" บอกว่าตนตื่นเต้นที่จะได้นำทีมเจอกับ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้สุดๆ เกมวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้เรียกได้หลายๆ คนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะชมเกม แดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่เกมแห่งศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่ยังเป็นการแย่งตำแหน่งจ่าฝูงอีกด้วย นอกจากเกมวันอาทิตย์นี้จะเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีของทั้ง 2 ทีมแล้วนั้น มันยังเป็นเกมที่มีความหมายต่อการลุ้นแชมป์มากๆ ด้วย หลังจากที่ "ลิเวอร์พูล" เป็นรองจ่าฝูงโดยที่ตามหลัง "แมนฯ ยูไนเต็ด" 3 แต้ม ส่งผลให้หลายคนมองว่านี่จะเป็นเกม "แดงเดือด" ที่เข้มข้นที่สุดในช่วงหลายนัดที่ผ่านมา กุนซือชาวเยอรมันเผยว่า "ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่เราต้องการแล้ว เรารู้ดีว่าเราจำเป็นต้องทำอะไร เรารู้ว่าตรงไหนที่มันผิดพลาด เราอยากเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ซึ่งตอนนี้เราก็ต้องทำอย่างนั้นให้ได้กับการเล่นในนาม นั่นคือสถานการณ์ในตอนนี้ พูดกันตรงๆ เลยนะ ผมตั้งตารอเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ ผมรู้ดีว่า โอเล่ ให